บทที่ 1 ศาสนาในประเทศไทย
บทที่ 1
ศาสนาในประเทศไทย
จากสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2543 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประชากรในประเทศไทยนับถือศาสนา 99.37% โดยแบ่งออกเป็นศาสนาพุทธ93.83%ศาสนาอิสลาม4.56%ศาสนาคริสต์0.80%ศาสนาฮินดู0.086%ลัทธิขงจื๊อ0.011% และอื่นๆ 0.079%
และมีประชากรที่ไม่นับถือศาสนาและไม่ทราบศาสนา 0.27% และ 0.36% ตามลำดับอย่างไรก็ตามการสำรวจขององค์การพัฒนาเอกชนนักวิชาการ และกลุ่มศาสนา
บ่งชี้ว่าประเทศไทยมีชาวพุทธนิกายเถรวาทราว 85-90%
และผู้นับถือศาสนาอิสลามอาจมีมากถึง 10% สำหรับผู้ไม่นับถือศาสนากรมการศาสนาประมาณการณ์ว่ามีน้อยกว่า 1% ของประชากรทั้งประเทศ
ศาสนาเเละภาครัฐ
นับแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นต้นมา ฝ่ายอาณาจักรไทยมีความสัมพันธ์กับฝ่ายศาสนจักรอย่างแน่นแฟ้น
พระมหากษัตริย์ไทยและพระราชนิกุลทรงเป็นพุทธมามกะและหลายพระองค์ทรวงผนวชเป็นภิกษุจึงมีการอุดหนุนค้ำจุนกันระหว่างสถาบันทั้งสองเรื่อยมา ในปัจจุบันกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม มีหน้าที่กำกับดูแลและรับรองกลุ่มศาสนาซึ่งรับรองเพียงห้าศาสนาหลักเท่านั้น
และไม่รับรองกลุ่มศาสนาใดเพิ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา
กลุ่มศาสนาที่ได้รับการรับรองมีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนและสิทธิ์ประโยชน์ทางภาษี
ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีมีหน้าที่ดูแลพุทธศาสนาโดยเฉพาะ
ทั้งสองหน่วยงานรับงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อใช้ในกิจการทางศาสนารวมกันกว่าสี่พันล้านบาทต่อปี
กระทรวงมหาดไทยเคยเก็บข้อมูลศาสนาและหมู่เลือดของคนไทยและพิมพ์ลงในบัตรประจำตัวประชาชน แต่ปัจจุบันเลิกเก็บข้อมูลดังกล่าวแล้ว
และศาสนาถือเป็นหนึ่งในข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร นอกจากนี้ในการสมัครงาน
ใบสมัครเข้าเรียนในสถานศึกษา
หรือประวัติคนไข้ในโรงพยาบาลมักจะสอบถามศาสนาของผู้กรอกข้อมูลด้วย
พุทธศาสนาเป็นวิชาบังคับในโรงเรียนรัฐบาลทั้งระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
แต่นักเรียนในโรงเรียนรัฐที่นับถือศาสนาอื่นไม่ต้องสวดมนต์ไหว้พระหลังเคารพธงชาติทุกวัน
กฎหมาย
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พ.ศ. 2550รวมถึงรัฐธรรมนูญไทยฉบับก่อนหน้ารับรองเสรีภาพในการถือศาสนาของประชาชนแต่บัญญัติว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะและทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก และกำหนดแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐชัดเจนว่ารัฐต้องให้ความอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาในมาตรา
79
แม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้บัญญัติศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวแต่ในที่สุดมาตรานี้มีความเพียงว่า
"พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือมาช้านาน"
นอกจากรัฐธรรมนูญแล้วศาสนาในประเทศไทยยังได้รับการคุ้มครองโดย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 และประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งห้ามการกล่าวหมิ่นประมาทพุทธศาสนารวมถึงพระสงฆ์
และคุ้มครองศาสนสถานและศาสนพิธีของศาสนาอื่น ๆ ตามลำดับ
ในทางปฏิบัติ

พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
อิทธิพลของศาสนาและความเชื่อในประเทศไทยสะท้อนออกมาในหลากหลายรูปแบบ
อาทิเช่น ตราแผ่นดินหรือตราประจำหน่วยงานที่มักเป็นเทพเจ้าในศาสนพราหมณ์-ฮินดูที่มีตำนานเกี่ยวข้องกับพันธกิจของหน่วยงานธงไตรรงค์ที่มีสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของศาสนา การใช้ปีพุทธศักราช(แต่ยึดปฏิทินสุริยคติตามระบบเกรโกเรียน) การใส่ภาพวัดในพุทธศาสนาลงในเหรียญกษาปณ์และธนบัตร การตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ในหน่วยงานราชการ การบูชาพระรัตนตรัยก่อนเริ่มพิธีการ
การกำหนดวันสำคัญทางศาสนาเป็นวันหยุดประจำชาติรวมถึงรัฐพิธีที่เป็นความเชื่อทางศาสนาที่มีมาแต่โบราณ
เช่น พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีตรียัมพวาย ตรีปวาย
ศาสนาพุทธ

ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยเป็นพุทธศาสนิกชนนิกายเถรวาท ซึ่งในปัจจุบันศาสนาพุทธในประเทศไทยได้ผสมผสานเข้ากับความเชื่อพื้นบ้าน
อย่างเช่น การตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ การถือฤกษ์ นอกจากนี้จำนวนประชากรชาวไทย-จีนขนาดใหญ่ที่อพยพเข้ามาในประเทศก็นับถือทั้งศาสนาพุทธและประเพณีดั้งเดิม วัดพุทธในประเทศมีเอกลักษณ์ที่เจดีย์สีทองสูง
และสถาปัตยกรรมพุทธในประเทศไทยคล้ายคลึงกับในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กัมพูชาและลาว ซึ่งมีภูมิหลังทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกัน

ศาสนาอิสลาม
ชาวมุสลิมเป็นประชากรขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 2
ในประเทศไทยในบริเวณสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา
และนราธิวาส ตลอดจนบางส่วนของจังหวัดสงขลาและชุมพร มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
ประกอบด้วยทั้งผู้ที่มีเชื้อสายไทยและมาเลย์
คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่าประชากรชาวมุสลิมส่วนใหญ่ของประเทศอาศัยอยู่มากที่สุดบริเวณนี้
อย่างไรก็ตามการวิจัยของกระทรวงการต่างประเทศ ชี้ว่า ชาวไทยมุสลิมเพียงร้อยละ 18
อาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ ส่วนที่เหลือได้อาศัยอยู่กระจายกันไปทั่วประเทศ
โดยมีอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครมากที่สุด และตลอดภาคใต้ของประเทศ ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
ใน พ.ศ. 2548
ชาวมุสลิมในภาคใต้ของประเทศคิดเป็นประชากรร้อยละ 30.4
ของประชากรที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ
ในขณะที่มุสลิมในส่วนอื่นของประเทศกลับมีน้อยกว่าร้อยละ 3
ประชากรมุสลิมของไทยมีความหลากหลายและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
โดยมีกลุ่มเชื้อชาติอพยพเข้ามาจากจีน ปากีสถาน กัมพูชา บังกลาเทศ มาเลเซีย
และอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับชาวไทย ขณะที่มุสลิมในประเทศไทยราวสองในสามมีเชื้อสายมาเลย
ศาสนาคริสต์

ศาสนาคริสต์มีประวัติศาสตร์ยาวนานในประเทศไทย
ถูกนำเข้ามาเผยแผ่โดยมิชชันนารียุโรปตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1550
ศาสนาคริสต์มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในสถาบันสังคม การศึกษา สาธารณสุข และเทคโนโลยี ปัจจุบันประเทศไทยมีคริสต์ศาสนิกชนประมาณร้อยละ 0.8
ของประชากรทั้งหมด คิดเป็น 486,840 คน
โดยเป็นชาวโรมันคาทอลิกประมาณ 250,000 คน
อาศัยอยู่ตามภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ลัทธิอนุตตรกรรม
ลัทธิอนุตตรธรรมเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกราว พ.ศ.
2492[14]
จากอาจารย์ในลัทธิที่ลี้ภัยจากพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนเข้ามาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และได้ตั้งสถานธรรมแห่งแรกขึ้นในประเทศไทยช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950
ต่อมามีลัทธิอนุตตรธรรมหลายสายเข้ามาเผยแผ่ในประเทศไทยมากขึ้น
ในปัจจุบันสายที่ใหญ่ที่สุดคือสายฟาอี ซึ่งประกอบด้วยหลายสายย่อย ที่สำคัญเช่น
สายฟาอีฉงเต๋อซึ่งตั้งสถานธรรมแรกในปี พ.ศ. 2521 สายฟาอีหลิงอิ่นในปี พ.ศ. 2523 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสายเป่ากวงเจี้นเต๋อที่ตั้งสถานธรรมเทียนเป่าในปี
พ.ศ. 2533
แม้ประชากรไทยส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธ
แต่มีพุทธศาสนิกชนชาวไทยจำนวนมากเข้าเป็นสมาชิกลัทธิอนุตตรธรรมเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นพุทธศาสนานิกายมหายานรูปแบบหนึ่ง
จากข้อมูลของ World
I-Kuan Tao Headquarters ที่เผยแพร่ในปี พ.ศ. 2548
ระบุว่าลัทธิอนุตตรธรรมมีสมาชิกราว 1,000,000 คนในประเทศไทย
ในจำนวนพระราชวงศ์และข้าราชการรับดับสูงรวมอยู่ด้วย
แบบทดสอบท้ายบทเรียน
พระพุทธศาสนา
หน่วยที่ 1ศาสนาในประเทศไทย
คำสั่ง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด
1.ข้อใดหมายถึงคำสอนที่สอนให้คนทำดี ละเว้นทำชั่ว
ก. ศาสดา ค. สาวก
ข. ศาสนา
2.ศาสนาทุกศาสนามีจุดมุ่งหมายที่เหมือนกัน คือข้อใด
ก. สอนให้ทำความดี ค. ให้รักเพื่อนมนุษย์
ข. ให้นับถือพระเจ้า
3.ศาสนาพุทธถือกำเนิดในประเทศใด
ก. ประเทศไทย ค. ประเทศศรีลังกา
ข. ประเทศอินเดีย
4.ศาสนาที่คนไทยนับถือมากที่สุด คือข้อใด
ก. ศาสนาคริสต์ ค. ศาสนาพุทธ
ข. ศาสนาฮินดู
5.ศาสดาของศาสนาคริสต์ ตรงข้ามกับข้อใด
ก. พระพุทธเจ้า ค. นบีมุฮัมมัด
ข. พระเยซู
6.ที่ประสูติของพระพุทธเจ้าปัจจุบันอยู่ในประเทศใด
ก. ประเทศเนปาล ค. ประเทศอินเดีย
ข. ประเทศศรีลังกา
7.ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นคำสอนของศาสนาใด
ก. ศาสนาคริสต์ ค. ศาสนาพุทธ
ข. ศาสนาอิสลาม
8.พระสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา คือใคร
ก. ฉันนะ
ค. โกณฑัญญะ
ข. สุภัททะ
9.พระนามเดิมของพระพุทธเจ้า คือข้อใด
ก. เจ้าชายสิทธัตถะ ค.
พระเจ้าพิมพิสาร
ข. พระเจ้าสุทโธทนะ
10. ศาสนาอิสลามประกอบพิธีกรรมที่ใด
ก. โบสถ์
ค. วัด
ข. สุเหร่า
แบบทดสอบท้ายบทเรียน
พระพุทธศาสนา - หน่วยที่ 1 ศาสนาในประเทศไทย
(เฉลย)
1) ข.
ศาสนา
2) ก.
สอนให้ทำความดี
3) ข.
ประเทศอินเดีย
4) ค.
ศาสนาพุทธ
5) ข.
นบีมุฮัมมัด
6) ก.
ประเทศเนปาล
7) ค.
ศาสนาพุุทธ
8) ค.
โกณฑัญญะ
9) ก.
เจ้าชายสิทธัตถะ
10)
ข. สุเหร่า
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น